อันเชล็อตติ โต้กลับ: 'ปัญหาไม่ใช่สติปัญญาผม' - กุนซือ เรอัล มาดริด ปิดปาก นักวิจารณ์
คาร์โล อันเชล็อตติ ได้ประกาศว่าเขา "ไม่ใช่ทั้งคนที่เก่งที่สุดหรือโง่ที่สุด" ในขณะที่เขากำลังจัดการกับผลกระทบจากความพ่ายแพ้อย่างหนักของ เรอัล มาดริด ต่อคู่แข่ง เอล กลาซิโก บาร์เซโลนา
ทีมของผู้จัดการชาวอิตาเลียนพ่ายแพ้ 5-2 ในนัดชิงชนะเลิศ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญา ที่เมืองเจดดาห์ แม้ว่าจะได้ประตูขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 5 จาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ นี่เป็นความพ่ายแพ้อย่างหนักครั้งที่สองของฤดูกาลต่อคู่ปรับตลอดกาล ต่อจากการพ่ายแพ้ 4-0 ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในเดือนตุลาคม ซึ่งยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลหลายคน
อันเชล็อตติ แสดงความผิดหวังกับผลงานของนักเตะของเขา ยอมรับว่าทีม "ป้องกันได้ไม่ดี" และ "ไม่ได้เล่น" แต่เปลี่ยนท่าทีเมื่อถูกถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อบกพร่องของทีมก่อนการแข่งขัน โกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ เซลตา บีโก้ ในวันพฤหัสบดี
"นี่เป็นการแถลงข่าว ไม่ใช่การโต้เถียง ผมได้พูดคุยกับทีมงานโค้ชและนักเตะของผมเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดแล้ว" อันเชล็อตติ เตือน
"ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการโต้เถียง ผมไม่ได้ตามกระแสวิจารณ์ที่วันหนึ่งคุณถูกมองว่าเป็นคนที่ดีที่สุด และวันต่อมาคุณถูกมองว่าเป็นคนที่โง่ที่สุด โชคดีที่ประสบการณ์ของผมสอนให้ผมรู้จักความสมดุล ผมไม่เชื่อว่าผมเป็นคนที่ดีที่สุด แต่ผมก็ไม่คิดว่าผมเป็นคนที่โง่ที่สุดเช่นกัน
"มันเป็นการถอยหลัง แต่เราต้องมองไปข้างหน้าเพราะเรายังอยู่ในตำแหน่งที่ดีในทุกการแข่งขัน มันทำให้เราเจ็บปวดมาก แต่ไม่ได้ทำให้เราจมลง
"อย่างชัดเจน มันเป็นเกมที่แย่มากพร้อมกับความผิดพลาดมากมาย เราได้วิเคราะห์ ประเมิน และหาทางแก้ไขแล้ว เมื่อเดือนที่แล้ว เราคว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และเมื่อหกเดือนก่อน เราคว้าแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก
"เรายังคงแข่งขันอยู่ เราแพ้หนึ่งเกม แม้จะเป็นรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทำให้เจ็บปวด แต่เราก็เคยชนะหลายรอบชิงชนะเลิศมาแล้ว มันเป็นความพ่ายแพ้ที่หนัก แต่มันก็เป็นแค่หนึ่งเกม เรากำลังทำผลงานได้ดีในทุกการแข่งขันและจะสู้ต่อไป"
อันเชล็อตติ มีประวัติในการกลับมาจากความยากลำบากและมีสถิติการจัดการทีมที่น่าประทับใจที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล กุนซือวัย 65 ปี คว้าแชมป์ แชมเปียนส์ ลีก ถึง 5 สมัย ซึ่งเป็นสถิติ และคว้าแชมป์ลีกในแต่ละลีกชั้นนำของยุโรปทั้งห้าลีก โดยประสบความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด เชลซี เอซี มิลาน บาเยิร์น มิวนิค และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง